วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Gold ETF คืออะไร? อ่านได้จากที่นี่ครับ..

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมห่างหายหน้าไปนานมาก เนื่องจากหน้าที่การงานผูกมัดเวลา เอ้อ...คงจะไม่มีใครอยากมาฟังเรื่องนี้หรอกนะ เอาละมาเข้าเรื่องดีกว่า การลงทุนในทองคำ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนคงต้องเห็นภาพทองคำแท่งสีเหลืองอร่ามลอยไปมา ซึ่งไม่ใช่ครับ ปีนี้เป็นปีพ.ศ. 2554 หาใช่่เมื่อ 20 ปีก่อน เดี๋ยวนี้มีการลงทุนทั้ง การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าที่อยู่ในตลาดอนุพันธ์ แห่งประเทศไทย และในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีนวัตกรรมใหม่อีกหนึ่ง ที่เป็นสินค้ามาให้นักลงทุนเลือก นั่นคือ Gold ETF (Gold Exchange Trade Fund)ชื่อนี้หากท่านเป็นนักลงทุนที่มีการติดตามข่าวเศรษฐกิจของโลก จะคงคุ้นหู แต่ผมจะขอถือโอกาสนี้มาอธิบายให้ท่านมีความกระจ่างมากขึ้นครับ
Gold ETF คือกองทุนที่ตั้งขึ้นในลักษณะ Passive Fund หมายความว่า เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้น โดยมีจุดประสงค์ที่จะเอาเงินที่ได้ไปซื้อทองคำแท่งมาเก็บรักษา โดยจะมีผู้ดูแลที่แต่งตั้งโดยตลาดหลักทรัพย์ และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแลของรัฐ คำว่า Passive หมายความว่ากองทุนนี้มีจุดประสงค์ที่จะไม่มีการนำทองคำ ไปซื้อขายเพื่อทำกำไรแต่จะหากำไรจากการขยับของราคาทองคำเท่านั้น เริ่มต้นก็ต้องมีการจดทะเบียนเพื่อก่อตั้งกองทุนขึ้น และนำหน่วยลงทุนออกขาย เมื่อได้เงินมาแล้วก็นำไปจัดซื้อทองคำตามจุดประสงค์ แล้วนำทองคำนี้ไปฝากไว้กับ Custodian ที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยจะมีการนำหน่วยลงทุนนี้ไปขึ้นทะเบียนไว้ที่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนสามารถที่จะไปสั่งซื้อขาย ได้ตลอดเวลาที่ตลาดเปิดทำการ คราวนี้มาดูว่าตัว Gold ETF นี้ต่างจากหน่วยลงทุนที่มี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมต่างๆเปิดขายอยู่ตอนนี้อย่างไร ท่านนักลงทุนที่เคยลงทุนในกองทุนอาทิ KGold หรือ Gold Fund ของ TMBAM หรือที่ใกล้เคียงเป็นต้น ท่านจะทราบว่า การซื้อหรือขายหน่วยลงทุนจะมีข้อจำกัดหลายๆด้าน เช่นต้องแจ้งความประสงค์ก่อนเวลา 15.30 น. และราคาของหน่วยลงทุนจะถูกคำนวณหลังจากที่ตลาดปิดแล้ว บางกองต้องรอข้ามวันเพื่อทราบราคา NAV ซึ่งพวกกองทุนเหล่านี้ไม่ได้เป็นการซื้อโดยตรง first hand แต่เป็นการซื้อหรือขายผ่าน บริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวมในต่างประเทศอีกต่อหนึ่ง ทำให้นักลงทุนต้องจ่ายค่าบริหารจัดการ เป็นสองหรือสามต่อซึ่งมากกว่าที่จะไปซื้อด้วยตัวเอง แต่นั่นก็ไม่สามารถทำได้เพราะว่า ในประเทศไทยยังมีกฎหมาย ควบคุมการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่จะไปลงในต่างประเทศที่มีธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลอยู่
เรามาพิจารณาว่าทำไม Gold ETF ถึงมีคนนิยมมากมาย ก็เพราะว่าคนสนใจที่จะลงทุนในทองคำ แต่ไม่สามารถที่จะหาซื้อมาเก็บได้เอง ด้วยสาเหตุของการที่มีต้นทุนในการซื้อ การจัดเก็บ อีกทั้งการหาซื้อก็ต้องซื้อในปริมาณที่มากๆเพื่อให้ได้ราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลกเป็นต้น อีกทั้งราคาของหน่วยลงทุนมีราคาไม่สูงมากนัก ทำให้นักลงทุนทุกคนสามารถที่จะซื้อมาเก็บได้ แต่ที่นักลงทุนจะเข้าไปทำการซื้อขายนี้ เป็น ตลาด secondary โดยที่ในตลาด primary นั้นจะมีตัวละครอยู่แค่2-3 คนเท่านั้น คือ ตัวกองทุน PD (Participating Dealer) และ Market Maker โดยที่ทั้ง 3 ฝ่ายนี้จะมีหน้าที่ต่างกันและทำงานโดยเอื้อซึ่งกันและกัน โดยที่นักลงทุนจะทำการซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดผ่าน PD เมื่อมีการซื้อหน่วยลงทุนในตลาดมากกว่าการขาย กองทุนก็จะออกหน่วยลงทุนแล้วนำเงินไปซื้อทองคำ แต่หากเป็นในทางตรงกันข้าม มีการขายมากกว่าการซื้อ ก็จะมีการนำหน่วยลงทุนไปคืนให้กองทุน ทำให้กองทุนจะต้องนำทองคำออกขายเพื่อคืนเงินให้นักลงทุน เห็นไหมครับ ลักษณะการคิดไม่ยากอย่างที่เราเข้าใจ เพียงแต่เราทำการซื้อขายทองผ่านกองทุนโดยมีตลาดหลักทรัพย์เป็นคนกลาง คอยป้องกันไม่ให้เกิดการผิดสัญญา เวลาที่มีคนซื้อขาเดียวมากๆ หรือมีคนขายขาเดียวมากๆ การชำระราคาก็มีการชำระผ่าน TCH (Thailand Clearing House) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ เราจึงตัดปัญหาการรับเช็คเวลาเราไปส่งมอบทองให้ร้านทองได้เลย
ปัจจุบัน ยังไม่มีใครตั้งกองทุน Gold ETF ในประเทศ แต่มีการตั้งกองทุนเพื่อที่จะนำเงินทุนไปซื้อหน่วยลงทุนในต่างประเทศ เอ! แล้วมันต่างอะไรกับที่มีกองทุนทองของบลจ.ต่างๆ ก็ตรงที่นักลงทุนสามารถสั่งซื้อหรือสั่งขายได้ในลักษณะ real time อย่างไรละครับ เช่นในทางทฤษฎี ราคาของหน่วยลงทุนจะต้องคล้องจองไปกับราคาของทองคำโลก ดังนั้นเมื่อราคาทองโลกขึ้น ราคาของหน่วยลงทุนก็ต้องขึ้นไปตามสัดส่วน และเวลาราคาทองโลกลง ราคาของหน่วยลงทุนก็ต้องลงเช่นกัน ดังนี้เราสามารถขจัดปัญหาการกั๊กราคาของสมาคมค้าทองคำได้
เห็นไหมครับ น่าสนุกและน่าตื่นเต้นดีออก ที่ในไม่ช้า เราจะมีเครื่องมือมาช่วยให้พวกเรานักลงทุน สามารถแสวงหาความมั่งคั่งได้อีก 1 ตัวแล้ว และเป็นการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีหน่วยงานราชการคอยควบคุมผลประโยชน์ให้ท่านอีกครับ
ในแวดวงของการลงทุนเรื่องนี้ ยังมีคำศัพท์ที่พวกเราควรต้องรู้ไว้คือ Redeem และ Create โดยคำแรก หมายความถึง มีผู้ลงทุนต้องการที่จะขายหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก ทาง PD (Participating Dealer)จะไปทำการติดต่อกับทางกองทุน เพื่อทำการขอ Redeem คือเอาหน่วยลงทุนไปคืนเขาแล้วรับเงินคืนกลับมา เพื่อนำส่งต่อให้นักลงทุน ส่วน คำที่สองคือในกรณีที่มีนักลงทุนจำนวนมากมีความต้องการซื้อหน่วยลงทุน ทาง PD ก็จะไปติดต่อกับกองทุนเพื่อให้เขาออกหน่วยลงทุนออกมาในจำนวนที่ต้องการ แล้วทาง PD ก็จะจ่ายเงินให้กองทุนเป็นค่าหน่วยลงทุน แล้วนำหน่วยลงทุนนี้มามอบให้กับนักลงทุน

ดูสิครับ ง่ายๆและเป็นธรรมดาเสียเหลือเกิน แต่นี่เป็นการลงทุนที่ ร้อนแรง ที่สุดในทศศตวรรษนี้ เนื่องจากราคาทองคำของโลก มีการเปลี่ยนแปลงหรือแกว่งตัวมาก ทำให้นักลงทุนสามารถหาจังหวะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำครับ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ท่านโชคดี มีกำไรให้เก็บทุกวันครับ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เยี่ยม